เดอะ ซุยไซด์ สควอด เต็มเรื่อง

เดอะ ซุยไซด์ สควอด เต็มเรื่อง

เดอะ ซุยไซด์ สควอด เต็มเรื่อง

เดอะ ซุยไซด์ สควอด เต็มเรื่อง เป็นหนังรวมเหล่าวายร้าย ของบริษัทภาพยนตร์ Warner Bros. Pictures เป็นภาพยนตร์ฝรั่งภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น ผจญภัยและตลกขบขันคอมมีดี้ แสดงนำโดย Margot Robbie รวมทั้งดารามากฝีมืออีกเยอะแยะหลายท่าน สามารถรับชมเหมาะโรงภาะยนตร์ทั่วทั้งประเทศในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 จะคืออะไรเมื่อคนร้ายที่ไม่เคยแคร์ใครกันแน่หน้าไหน ต้องหันมาลงนามพร้อมสละชีพเพื่อปกป้องปกปักษ์โลก! “TheSuicideSquad – เดอะ ซุยไซด์ สควอด” เผยโฉมหน้าคนร้ายตัวบิดารวมทั้งตัวแม่ผู้จะต้องมารวมตัวกันเพื่อทำภารกิจชี้เป็น-ชี้ตายให้กับรัฐบาลสหรัฐ นำกลุ่มโดย บลัดสปอร์ต รับบทโดย ไอดริส เอลบา, พีซเมคเกอร์ รับบทโดย จอห์น ซีน่า, ฮาร์ลีย์ ควินน์ สวมบทบาทโดย มาร์โกต์ ร็อบบี้, ผู้พัน ริค แฟล็ก สวมบทโดย โจเอล คินท้องนาแมน, แรตแคตเชอร์ 2 เล่นบทโดย แดเนียลา เมลชอร์ และก็โพลก้า-ดอทแมน รับบทโดย เดวิด แดสท์มัลแชน นอกจากนั้นยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างปัจจุบันมาให้ได้ชมกันที่บอกได้เลยว่า ทั้งเพี้ยน ทั้งยังฮา ทั้งยังบ้าพลัง เตรียมความพร้อมในการไปพบกับพวกเขาได้แบบเต็มๆ29 ก.ค. ในโรงหนังเท่านั้น

3 ผู้แสดงที่โล่งมีต้นเหตุที่เกิดจากฉากจำเพียงแค่ฉากเดียวฮอลลีวูด

1.ไวโอลา เดวิส จาก Doubt (2008)

ไวโอลา เดวิส (Viola Davis) ดาราหญิงผิวดำผู้มากความสามารถคนหนึ่ง เดอะ ซุยไซด์ สควอด ซับไทย เธอดำรงชีวิตในตอนเริ่มการแสดงกับหน้าที่ตัวประกอบในทีวีซีรีส์หลายเรื่อง และภาพยนตร์ดังเช่น Disturbia รวมทั้ง Traffic ถึงแม้ในวันนี้ชื่อของ ไวโอลา เดวิส

อาจจะไม่มีชื่อเสียงกันในวงกว้างนัก แต่ว่าสำหรับคนชอบดูหนังฮอลลีวูดตัวจริงก็จะจดจำเธอได้จากหนัง The Help (2011) แล้วก็บทบาท อะแมนดา วอลเลอร์ (Amanda Waller) นายใหญ่จอมโฉดจาก Suicide Squad อีกทั้ง 2 ภาค แต่ว่าเรื่องที่พวกเราจับมาบอกในที่นี้คือบทบาทการแสดงของเธอใน Doubt ที่ถือว่าเป็นหน้าที่แรกของเธอที่ได้รับความพึงพอใจจากผู้ชม แล้วก็นักวิพากษ์วิจารณ์

Doubt เป็นหนังดราม่าเนื้อหาเข้มข้น เล่าราวย้อนยุคปี 1964 เป็นหนังที่ขายการแสดงอย่างเป็นจริงเป็นจัง มองได้จากรายนามดารานำที่ประกอบไปด้วย เมอรีล สตรีป, ฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน และก็ เอมี อดัมส์ แม้กระนั้นถึงแบบนั้นดวิสก็ไม่เกรงกลัวกับพลังการแสดงของดาราหนังมากฝีมือกลุ่มนี้

บทคุณนายไม่ลเลอร์ของเดวิสนั้นเป็นบทสมทบน้อยมาก คุณได้เผยตัวบนจอเพียงแค่ 8 นาทีเท่านั้น และก็เป็น 8 นาทีที่จำเป็นต้องแสดงร่วมกับ สิสเตอร์ อลอยเซียส บทบาทของเมอรีล สตรีป ผู้ครอบครอง 3 รางวัลออสการ์ แม้กระนั้นผลก็คือ 8 นาทีของไวโอลา เดวิส สามารถส่งให้คุณได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ สาขาผู้แสดงสมทบหญิงได้

แม้เดวิสจะพลาดออสการ์ไปในปีนั้น แต่นั่นก็พอๆกับคุณได้รับการฉายส่องสปอตไลต์ในอาชีพการแสดงแล้ว คุณมีงานแสดงในปี 2009 ถึง 5 เรื่อง รวมทั้งปี 2010 อีก 7 เรื่อง แล้วก็ได้เข้าชิงออสการ์อีกรอบจาก The Help (2011) ซึ่งยังคงพลาดไปอีกที ไวโอลา เดวิส คว้าออสการ์ได้สำเร็จในปี 2017 จาก Fences ที่เธอตามติดคู่กับ เดนเซล วอชิงตัน แล้วก็ปีที่แล้วก็ได้เข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงดีจาก Ma Rainey’s Black Bottom (2020)

2.โคลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์ จาก Kick-Ass (2010)

วันนี้ โคลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์ (Chloë Grace Moretz) ไม่ใช่เด็กน้อยที่เราคุ้นตาอีกต่อไปแล้ว เพราะเหตุว่าเธอเป็นสาววัย 24 ปีแล้ว แต่ว่าสำหรับหน้าที่แจ้งเกิดของคุณนั้น จะต้องย้อนกันไปในปี 2010 กับบทบาท Hit Girl หนูน้อยซูเปอร์ฮีโรขาโหดเหี้ยม เวลานี้มอเร็ตซ์สวมบทนี้อายุเธอเพิ่งจะ 12 ปีเพียงเท่านั้น

Kick Ass เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ มาร์ก ไม่ลลาร์ (Mark Millar) รวมทั้ง จอห์น โรมิทา จูเนียร์ (John Romita Jr) เรื่องราวของ เดฟ ไลซิวสกี (Dave Lizewski) เด็กมัธยมที่ติดการ์ตูนติดเป็นนิสัยจนถึงนึกต้องการจะเป็นซูเปอร์ฮีโรตัวจริงขึ้นมา

ทั้งๆที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย แม้กระนั้นรวมทั้งตกลงใจตัดชุดฟอร์มซูเปอร์ฮีโรขึ้นมาแล้วตั้งชื่อให้ตัวเองว่า Kick-Ass แถมยังกล้าบุกเข้ารังแก๊งมาเฟียผิวดำ ในตอนนี้ล่ะที่เป็นฉากเปิดตัวของ วัวลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์ ในบทบาท Hit Girl ที่บุกเข้าช่วยเดฟได้ทันเวลา ภาพลักษณ์ของสาวน้อยตัวจิ๋ว แต่ว่าก็สังหารชาวกลุ่มได้สุดโหดเกินคาด ทำให้ชื่อของ วัวลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์ ถูกเอ่ยถึงนับจากนาทีนั้น

จากการบรรลุผลของ Kick Ass ทำให้หนังได้มีภาคต่อตามออกมาในปี 2013 แต่ประสบความล้มเหลวเท่าภาคแรกแล้วก็หยุดอยู่แค่นั้น เพราะว่าบรรดาผู้แสดงเด็กในเรื่องเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว

ส่วนทางบนอาชีพดาราของมอเร็ตซ์นั้นยังมองสดใสอยู่ ปีนี้เราพึ่งได้เห็นคุณในบทนำจากหนัง Tome and Jerry กันไปหมาดๆส่วนปีต่อไปจะมีหนังใหม่ที่เธอเล่นบทนำอีก 2 เรื่อง ทีวีซีรีส์อีก 1 เรื่อง รวมทั้งผลงานบรรยายเสียงอีก 1 เรื่อง

3.แดนนี่ ถางเออร์ จาก Human Traffic (1999)

ข้ามมาที่หนังฝั่งอังกฤษกันบ้าง เป็นหนังอินดี้ที่ไม่ได้ออกฉายในวงกว้าง แม้กระนั้นถูกเอ่ยถึงในเวลาต่อมา เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนซี้ 5 คน ที่สนุกสนานสุดฤทธิ์สุดเดชกันในคืนวันศุกร์บริเวณแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศดนตรีในคลับ ยา รวมทั้งเรื่องราวความรักของวัยรุ่น ตัวนำเรื่องเป็นหน้าที่ จิป ของจอห์น ซิมม์ (John Simm) แต่ว่าตัวขโมยซีนในเรื่องกลับกลาย มอฟฟ์ บทบาทของ แดนนี่ ถางเอ้อร์ (Dannie Dyer) และฉากที่เป็นที่กล่าวขานก็คือฉากคุยโทรศัพท์ในห้องอาบน้ำ

เป็นฉากเสวนาสั้นๆแค่ 43 วินาที แค่นั้น แม้กระนั้นก็ทำให้ชื่อของ แดนนี่ ถางเอ้อร์ เป็นที่จำ ถึงขนาดมีคนถ่ายคลิปเอาอย่างฉากนี้กันเลยเมื่อถางเออร์ได้แจ้งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากบทมอฟฟ์

เขาก็เลยมีงานแสดงหลั่งไหลตามมาอีกเยอะมากยกตัวอย่างเช่น Mean Machine, The Football Factory, The Business, Severance, Doghouse รวมทั้งได้พากย์เสียงในเกม Grand Theft Auto อีก 2 ภาค แต่โดยมากก็ยังคงเป็นหน้าที่ที่มีลักษณะท่าทางลักษณ์ใกล้เคียงกับบทมอฟฟ์ที่สร้างชื่อให้กับเขา แล้วก็เร็วๆนี้ดายเออร์กำลังจะได้กลับไปสวมบทบาทเป็นมอฟฟ์อีกทีใน Human Traffic ภาค 2 ที่ทิ้งห่างภาคแรกยาวนานถึง 22 ปี

กลับสู่หน้าหลัก https://www.boycottford.com