How I Became a Superhero (2021)

How I Became a Superhero (2021)

How I Became a Superhero (2021)

How I Became a Superhero (2021) ภาพยนตร์ซูเปอร์วีรบุรุษเชื้อชาติฝรั่งเศสดูแลโดย อัตตัล ดั๊กลาส ดัดแปลงจากหนังสือชื่อ Comment je suis devenu super-héros โดย Gérald Bronner นักวิทยาศาสตร์แล้วก็นักเขียนสังคมฝรั่งเศส How I Became a Super hero (2021) ซึ่งจัดจำหน่ายโดย วอร์เนอร์ บรอคอยส พิคเจอร์ และมีระบุฉายเมืองไทยในพฤษภาคม แต่เพราะว่าโควิดเลยทำให้หนังถูกโยกย้ายมาลงในเน็ตฟลิกซ์ โดยหนังเข้าฉายไปแล้วเมื่อปีก่อนรวมทั้งได้คะแนนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ไปในแง่บวก โดยหนังมีเสียงพากย์ภาษาไทยเต็มต้นแบบ ฉายแล้ววันนี้

Mortal Kombat เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเกมชื่อดัง

ซึ่งนี่นับว่าเป็นครั้งที่ 3 ที่ได้ถูกดัดแปลงแก้ไขมา โดยทั้ง 2 เรื่องก่อนหน้าที่ผ่านมาประสบความล้มเหลวเยอะแค่ไหน ทั้งแฟนเกมและไม่ใช่แฟนเกมต่างก็ไม่โอเคกับอีกทั้ง 2 เรื่องก่อนหน้าที่ผ่านมา นี่ก็เลยเป็นโอกาสแก้ตัวอีกทีสำหรับแฟรนไชส์นี้จำเป็นต้องออกสตาร์ทก่อนว่าไม่ใช่แฟนเกมนี้เลย ในหัวสมองจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเล่นเกมนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร แต่ก็พอรู้จักตัวละครเด่นๆบ้าง อย่างพวก Scorpion หรือ Sub-Zero

เพียงพอจดจำได้แต่เพียงว่ามันเป็นเกมต่อสู้โหดๆมีกิมมิคการ Fatality ในเกมอะไรทำนองนั้น โดยเหตุนี้พวกเราก็เลยไม่สามารถบอกได้ว่ามันต่างหรือเหมือนกับเกมขนาดนั้น จะขอรีวิวในฐานะผู้ชมหนังคนนึงเพียงแค่นั้น Mortal Kombat ในเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวสำคัญๆคือการที่ฝั่ง Earthrealm จำเป็นต้องเก็บรวบรวมนักสู้ที่มีปานรูปมังกรเพื่อฝึกฝนตระเตรียมต่อสู้กับนักสู้จาก Outworld

ที่ถ้าเกิดแพ้ในคราวนี้จะเสียโลกมนุษย์ให้กับ Outworld ไป How I Became a Superhero (2021) แต่ฝั่งร้ายอย่าง Outworld กลับเล่นไม่ซื่อ ทั้งๆที่ยังไม่เริ่มแข่งก็ส่งเหล่านักสู้ฝั่งตนเองมาไล่ฆ่านักสู้ฝั่ง Earthrealm ทำให้ทั้งสองจำต้องปะทะกันก่อนการแข่งครั้งยิ่งใหญ่จุดแข็งของหนังอย่างที่จั่วหัวไปเลย มันคือฉากแอ็คชันมันดี แม้กระนั้นไม่ใช่ทุกฉากจะดี หนังมีฉากแอ็คชันไม่มากไม่น้อยไป มีความไร้มนุษยธรรมที่แฟนเกมคงจะรอคอย

ย้ำอีกทีว่าไม่ทราบเหมือนกันแต่ละท่าชั่วร้ายๆที่นักแสดงใช้มันเอามาจากในเกมหรือไม่ แต่ว่าฉากพวกนั้นทำได้ดีเลยแหละ มีหลายฉากที่ให้ความรู้สึกแบบ “เหยดดดด เท่ว่ะ” อะไรทำนองนั้น แต่ว่าการตัดต่อฉากต่อสู้หลายๆครั้งยังให้ความรู้ความเข้าใจสึก “แปลก” ทะแม่งยังไงไม่รู้จัก ภาพรวมมันทำได้ดีนะ แต่ว่าฉากต่อสู้บางครั้งบางคราวมีการใช้มุมกล้องถ่ายรูปกว้างแล้วมันจึงกลายเป็นดูหมิ่นไปเลย

บางซีนก็แอ็คชันกันแปลกๆยังไงก็ไม่เคยทราบ CG ดีบ้าง ไม่ดีบ้างผสมกันไป แม้กระนั้นอย่างที่บอกในรูปภาพรวมมันดูดีนะ หากใส่เอฟเฟค ตัดต่อ ถ่ายมุมกล้องดีๆมันจะออกมาดีเลิศ ตกลงว่าภาพรวมของฉากแอ็คชันตอบปัญหาละกันทางด้านเนื้อเรื่องทำเป็นไม่ค่อยดีเลย บทมันมี แต่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ มันไม่มีอะไรน่าจดจำ ยืดในส่วนที่ไม่สมควรยืด เร่งในส่วนที่ควรใช้เวลากับมันมากกว่านี้ ตอนแรกปูซะน่าเบื่อ

ช่วงท้ายก็หาทางลงง่ายอย่างมาก มีการปูเรื่่องราวตัวเอก ส่วนอีกหลายต่อละครก็มิได้กล่าวถึงที่มาที่ไปสักเท่าไหร่ มันจึงมีหลายซีนที่ตัวร้ายปะทะกับตัวเอกแล้วพล่ามเรื่องในอดีตให้เชิญชวนงงมาก เอ้อเมื่อเอ๋ยถึงการพล่ามแล้ว หนังหัวข้อนี้บทพูดเยอะแยะ สะเปะสะปะ เลอะมากมาย เราจะเห็นตัวร้ายกับผู้แสดงนำพูดอะไรกันไม่เคยรู้จำนวนมากไปหมด มันจึงกลายเป็นส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ฉากแอ็คชันน่าระอาชวนหาวไปซะหมดเลย

แล้วก็ราวกับหนังจะรู้สึกตัวนะ เพราะว่ามีบ่อยมากที่จู่ๆก็โยนแสดงแอ็คชันซะเลยตัวละครทุกตัว ไม่มีเสน่ห์อะไรให้น่าจำ ผ่านมา ผ่านไป บทแต่ละตัวก็มองเชยรวมทั้งไม่มีมิติมาก ไม่มีนักแสดงไหนให้น่าเอาใจช่วยเลยสักนิด โดยเฉพาะดารานำชาย บอกตรงๆเสมือนเป็นส่วนเกินของเรื่องราว เป็นตัวละครที่ดูด้อยและน่าเบื่อที่สุดในเรื่องละ โคตรไร้มิติเลย นักแสดงแบนมากมาย เอาเวลาไปให้ตัวอื่นน่าจะดีมากกว่านี้

เว้นเสียแต่ใบหน้าอันรูปหล่อราวกับนายแบบ เราแทบไม่ได้เห็นความชำนาญการแสดงอะไรก็แล้วแต่ของเขาเลย ยิ่งบทของตัวนี้ยิ่งแบบไร้เสน่ห์ อิหยังวะแบบสุดๆจริงๆมีตัวละครนึงที่ราวกับจะทำเป็นดีนะเป็นKano ความกวนตีนของตัวละครนี้ทำให้หนังไม่มีเบื่อดีสรุป Mortal Kombat ให้อารมณ์เสมือน Godzilla vs. Kong ที่มีฉากแอ็คชันดี แต่ว่าเนื้อเรื่องอย่าไปสนอะไรมันเลย มันมีความไม่มีเหตุผลหลายจุด น่ารำคาญ ไม่น่าจำ และภาพรวมหลายๆฉากบางทีเชิญชวนให้รำลึกถึงหนังแอ็คชันเกรดบีอย่างไรยังงั้นเสียด้วยสิ

รีวิวหนัง Judas and the Black Messiah – หนังโคตรดี รายละเอียดสะเทือนอารมณ์ สนุกจนกระทั่งน่าขนลุก

Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ หนังดราม่า/ชีวิตที่ผลิตมาจากความจริงในชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 1968 -1971 ที่เกิดเรื่องราวของ เฟรด แฮมป์ตัน

หัวหน้ากลุ่ม อิลลินอยส์ กางล็ค แพนเตอร์ (Illinois Black Panther Party) เป็นกลุ่มกองกำลังปฏิรูปต่อสู้เพื่อคนผิวสี หนังกำกับโดย ชาก้า คิงบอกเลยว่านักแสดงของ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์

นั้นทุกคนไม่ธรรมดาเลย เริ่มตั้งแต่ แดเนียล คาลูคุณย่า How I Became a Superhero (2021) คู่แข่งรางวัลออสการ์ (Get Out, Widows, Black Panther) มารับบทเฟรด หมูแฮมป์ตัน และ ลาคีธ สแตนฟีลด์ (“Atlanta,” “The Girl in the Spider’s Web”)

มารับบทวิลเลียม โอ’นีล ยิ่งกว่านั้นยังมี เจสซี่ พลีมอนส์ (“Vice,” “Game Night,” “The Post”), โดมินิก ฟิชแบ็ค (“The Hate U Give,” “The Deuce”), แอชตัน แซนเดอร์ส (“The Equalizer 2,” “Moonlight”) แล้วก็ มาร์ติน ชีน (“The Departed,” “The West Wing,”)แล้วก็ทันที่ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์

เข้าฉายในอเมริกาก็เรียกได้ว่าภาพยนตร์ประเด็นนี้เดินหน้าปัดกวาดรางวัลสุดกำลังเลยครับ โดยสามารถเอารางวัลไปแล้ว 5 รางวัล จากเวทีชั้นนำของแวดวงภาพยนตร์ อาทิเช่น BAFTA, GOLDEN GLOBES, SAG AWARDS

รวมทั้ง CRITICS CHOICE AWARDS และก็ ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 อีกด้วย ในสาขาภาพยนตร์เยี่ยมยอดอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ดาราหนังอย่าง แดเนียล ติดอยู่ลูยา ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเหมือนกัน ในสาขา นักแสดงสมทบชายเยี่ยมอีกด้วยนะครับ โดยการประกาศผลรางวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายนนี้

จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์ จะเล่าถึง วิลเลียม โอ’นีล (ลาคีธ สแตนฟิลด์) ที่เป็นสายตำรวจได้เข้าแทรกซึมอยู่ในกรุ๊ปปฏิวัติ อิลลินอยส์ กางล็ค แพนเตอร์ ปาร์ตี้ และก็มีหน้าที่รอจับตามองผู้นำอย่างเฟรด หมูแฮมป์ตัน (แดเนียล ติดอยู่ลูยา) ด้วยความที่ โอ’นีลเก่งด้านการปลุกปั่น เขาก็เลยรับงานเป็นสายลับให้กับ รอย ไม่ตเชลล์ (เจสซี่ พลีมอนส์) แล้วด้วยพลังทางพรรคการเมืองของหมูแฮมตันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโอ นีล เขาจะประคับประคองพลังแห่งความดีงามเอาไว้ได้ หรือ สยบแฮมป์ตันกับเดอะ แพนเตอร์ส

Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์ เปิดเรื่องมาจะเป็นการที่ วิลเลียม โอ’นีล ตัวจริงมานั่งเล่าเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนั้นครับผม แล้วหนังก็จะพาพวกเราไปรู้จักกลุ่มคณะปฏิวัติและก็ต่อสู้เพื่อคนผิวสี ที่นำโดย เฟรด แฮมป์ตัน ขอบอกตรงนี้เลยว่าหนังประเด็นนี้สะท้อนสังคมได้แบบปวดมากๆกับความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมได้แบบกระจ่างแจ้ง ที่ดูแล้วจะต้องอึ้งกันเลยทีเดียว

แล้วสิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำเป็นดีมากๆอีกอย่างก็คือการสะกดคนดูขอรับ พาผู้ชมดำตรงลงไปที่แบบหาทางขึ้นไม่เจอเลยการเล่าเรื่องของหนังก็ค่อนข้างจะเรียบง่ายแต่ว่าซ่อนเร้นไปด้วยพลังและยังมีแมสเสจที่เชิญขนลุกเยอะไปหมดดังเช่น “ตรงไหนมีประชาชน How I Became a Superhero (2021) ที่นั้นมีอำนาจ” อันนี้เป็นแค่น้ำจิ้มส่วนคนใดกันแน่ที่ใคร่รู้ว่ามีคำไหนอีกบ้างจำเป็นต้องไปทดลองสัมผัสกันเองนะครับ แต่ขอเตือนว่ามีขนลุกแน่นอนมาต่อกันกับด้านต่างๆของหนังครับผมด้านฉากต่างๆหนังทำได้ดียอดไม่มีข้อบกพร่องเลยพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปใน

คริสต์ศักราช 1968-1971 ได้สมบูรณ์แบบอีกทั้งรถยนต์ทั้งการแต่งกายที่แอบเท่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว ด้านดาราจะต้องขอตบมือให้เลยขอรับอีกทั้ง ลาคีธ สแตนฟิลด์ และก็ แดเนียล ติดอยู่ลูยา ทั้งคู่แสดงออกมาได้ดีมากๆยิ่งเป็นฉากในโบสถ์ แดเนียล ติดอยู่ลูยา ทำเป็นดีเลิศๆครับผม ยิ่งทำให้ผู้ชมอินแบบไม่ทราบจะอินยังไงเลยล่ะช่วงท้ายของหนังบอกเลยบีบหัวใจคนดูมากๆลุ้นแบบสุดๆอีกทั้งความดาร์กอีกทั้งท้อใจ

แม้กระนั้นมันคือเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว รวมทั้งไม่มีผู้ใดสามารถกลับไปปรับปรุงมันได้ แล้วหนังก็ยังมาเข้าฉายในตอนที่ถูกราวจับวางกันอย่างยิ่งจริงๆ ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้มองน่าดึงดูดมากขึ้นไปอีกครับ แล้วใครกันแน่ที่ต้องการสัมผัสหนังที่บางทีก็อาจจะเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปีนี้ รวมทั้ง ถูกใจหนังที่สร้างขึ้นมาจากประวัติศาสตร์จริงๆแบบงี้

ก็ไม่ควรพลาดกับ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ หนังโคตรดี มาพร้อมกับเนื้อหาสะท้อนสังคมที่โคตรปวดของความหยาบช้าของกระบวนการยุติธรรม ที่แม่งเรียวมากๆดูแล้วอิน อิน(เรือ)หาย กันอย่างยิ่งจริงๆ ไม่อยากที่จะให้พลาดกันจริงๆกับหนังประเด็นนี้

กลับสู่หน้าหลัก https://www.boycottford.com/